Assabikoon กลุ่มชนแนวหน้า

Just another WordPress.com weblog

การปล่อยให้กางเกง หรือ ผ้านุ่งต่ำกว่าตาตุ่ม ตุลาคม 27, 2009

Filed under: ชี้แจง — shabab00 @ 6:23 pm
Tags: ,

Bluegy Images Hosting

บางส่วนจากเว็ป islam-qa เกี่ยวกับการปล่อยให้กางเกง หรือ ผ้านุ่งต่ำกว่าตาตุ่ม

สำหรับผู้ที่ปล่อยให้เครื่องนุ่งห่มห้อยลงมาต่ำกว่าตาตุ่ม โดยที่ไม่มีเจตนา หยิ่งผยองหรือ โอ้อวด บรรดานักวิชาการมีทัศนะที่แตกต่างกัน  โดยแบ่งเป็น 3 ทัศนะ คือ ทัศนะที่เห็นว่าฮะรอม  ทัศนะที่เห็นว่า มักโระฮฺ และ ทัศนะที่เห็นว่า มุบาฮฺ อนุญาตให้กระทำได้

อุละมาอฺส่วนใหญ่จากมัสฮับทั้ง 4 มีความเห็นว่า ไม่ถือว่าเป็นการฮะรอม   อิบนิมุฟลิฮฺ กล่าวเอาไว้ใน อัล-อะดาบ อัชชัรอียยะฮฺ ว่า:

ท่านอิหม่าม อบูอะนีฟะฮฺ ( ขอพระองค์อัลลอฮฺทรงเมตตาท่านด้วย ) ได้สวมใส่ ริดาอฺที่ยาว ลากกับพื้น  และมีผู้กล่าวกับท่านว่า  เรามิได้ถูกห้ามให้ทำสิ่งนี้หรอกหรือ? ท่านอิหม่ามจึงกล่าวว่า “ นั่นมันสำหรับผู้ที่โอ้อวด แต่เรามิได้เป็นหนึ่งในหมู่พวกนั้น”

ดูจาก อัล- ฟาตาวา อัล- ฮินดียฺยะฮฺ

ท่านอิหม่ามชาฟิอีย์ ( ขอพระองค์อัลลอฮฺทรงเมตตาท่านด้วย)กล่าวเอาไว้เในเรื่องนี้ ดั่งที่ถูกยกมาอ้างอิงโดยท่านอิหม่ามน่ะว่ะวี ในหนังสือ อัล-มัจมูอฺ( 3/177)  โดยกล่าวว่า “ ไม่เป็นการอนุญาตที่จะปล่อยให้อาภรณ์ห้อยต่ำลงมากว่าตาตุ่ม เมื่อจะทำการละหมาด หรือ ในกรณีอื่นๆก็ตาม ทั้งนี้เพื่อเป็นการโอ้อวด  แต่สำหรับการปล่อยให้ลงมาต่ำกว่าตาตุ่มที่มีสาเหตุอื่นๆในขณะละหมาดโดยไม่ได้เป็นการโอ้อวดแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงแต่อย่างใด ทั้งนี้เพราะท่านนบี ( ขอความสันติจงมีแด่ท่าน)ได้กล่าวกับท่านอบูบักร เมื่อท่านอบูบักรได้บอกกับท่านนบีว่า ชายอาภรณ์ของท่าน(อบูบักร)ก็ห้อยลงมาต่ำกว่าตาตุ่ม ซึ่งท่านนบีก็ได้กล่าวว่า “ เจ้าไม่ได้เป็นหนึ่งในพวกเขาเหล่านั้น ( นั้นคือ พวกที่ปล่อยให้อาภรณ์ห้อยต่ำกว่าตาตุ่มเพื่อเป็นการโอ้อวด)

เชค ตะกียุดดีน ( อิบนฺตัยมียะฮฺ- ขอพระองค์อัลลอฮฺทรงเมตตาท่านด้วย) ก็ได้สนับสนุน ทัศนะที่บอกว่า ไม่เป็นการฮะรอม แต่ท่านมิได้กล่าวว่า มันเป็นการมักโระฮฺ หรือไม่

อ้างจาก : ชัรฮฺ อัล- อุมดะฮฺ โดย เชคคุลอิสลาม อิบนิตัยมียะฮฺ  หน้าที่ 361-362 )

อ้างจากเว็ป http://www.islam-qa.com

 

ถลกหนังไซออนนิส ตอนที่ 7 กันยายน 2, 2009

สัญลักษณ์อิลลูมินาติ (ตอน 1)

โดย นภ โสภณวสุ…….
กลุ่มอัซซาบีกูน ……

หากถามว่าอะไรคือสัญลักษณ์ของมุสลิม ถ้าจะพูดถึงตัวบุคคลก็คือ การแต่งกาย การไว้เครา การคลุมหิญาบ การละหมาด เป็นต้น แต่หากพูดถึงโลโก้ สัญลักษณ์ของมุสลิมที่มีก็คือ ธงสีดำ ซึ่งใช้ในสงครามในยุคของท่านศาสดา หรือสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยว หรือจันทร์เสี้ยวและดวงดาว ซึ่งใช้แทนตัวอักษรนูน อันเป็นสัญลักษณ์ของกองทัพมุสลิมในสมัยครูเสด ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นธงชาติตุรกีอดีตเมืองหลวงอาณาจักรอิสลาม และประเทศมุสลิมอื่น ๆ รวมทั้งกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้กันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นมัสญิด ร้านค้า องค์กร เว็บไซท์ ฯลฯ ซึ่งใช้สัญลักษณ์นี้เป็นการแสดงตัวตนว่าเป็นมุสลิม

เช่นเดียวกันสำหรับอิลลูมินาติ ลัทธิบูชาซาตานซึ่งเป็นปรปักษ์กับอิสลามนั้น เขาก็มีสัญลักษณ์ที่จะแสดงตัวตนให้พลพรรคของเขาได้รู้กัน เนื่องจากอิลลูมินาติได้ครอบครองโลก และมีบทบาทไปทุกวงการ ก็จะมีการใช้สัญลักษณ์ของพวกเขาปรากฏตามโลโก้ของกลุ่ม องค์กร ยี่ห้อ ธงชาติ หรือแม้แต่สัญลักษณ์ที่ใช้ในศาสนาลัทธิต่าง ๆ

พวกอิลลูมินาติให้ความสำคัญกับสัญลักษณ์และรหัสลับมาก เพราะอดีตพวกเขาคือองค์กรลับ เป็นลัทธิที่ทำงานอย่างลับ ๆ และคนกลุ่มนี้จะมีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะ จึงมักออกแบบสัญลักษณ์ซึ่งแสดงความเป็นอิลลูมินาติสอดแทรกอยู่ได้อย่างลงตัว ซึ่งต่อไปนี้เราจะค่อย ๆ มาเรียนรู้สัญลักษณ์ของพวกเขา ซึ่งบางโลโก้นั้นเราก็คุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี

bluegy Images Hosting

สัญลักษณ์อิลลูมินาติเบื้องต้น จะมีรูปพีรามิด และถัดจากนั้นสัญลักษณ์ต่อมาคือรูปดวงตา (more…)

 

ถลกหนังไซออนนิส ตอนที่ 6 สิงหาคม 23, 2009

Filed under: ถลกหนัง ไซออนิสต์ — shabab00 @ 5:51 pm

แผนชักนำความเสียหายสู่หน้าแผ่นดิน ด้วยการยุยง ล่อลวง

โดย ชุกรี การิมี…….
กลุ่มอัซซาบีกูน ……

ประวัติศาสตร์โลกต้องย้อนศึกษาร่องรอยในอดีตที่ผ่านมา เพราะอิทธิพลของลัทธิไซออนิสต์ ทำให้สื่อที่บอกกล่าวความจริงต่างๆในอดีตถูกลบกลบไปด้วยกระบอกเสียงของพวกมัน เรื่องราวที่สำคัญก็กลับถูกทำให้กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่จดจำ พวกมันบอกเล่าความจริงเพียงบางส่วน และความจริงเหล่านั้นก่อความพินาศได้ดีซะยิ่งกว่าการโกหกทั้งหมดเลยเสียอีก พวกมันใช้อำนาจสื่อเพื่อกลืนกินและควบรวมจัดการสถาณการณ์ความเป็นไปต่างๆของโลก และสถานการณ์โลกที่มันใช้โอกาสจากอำนาจของสื่ออยู่เสมอก็คือ สงคราม การพิชิตดินแดนต่างๆ การกำหนดเส้นแบ่งพรมแดนประเทศต่างๆ การสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพรมแดนต่างๆของโลก เพื่อการสร้างบรรยากาศความไม่สงบในสงครามกู้อิสรภาพ และสร้างสันติภาพบนความเดือดร้อนของประชาชน เป็นเงื่อนใขให้ผู้นำประเทศต่างๆปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของพวกมันหลังจากเข้ายึดกุมเหนือสังคมและเศรษฐกิจเรียบร้อยแล้ว คือการทำให้ผู้คนกลายเป็นทาสทางความคิด และเข้าปกครองโดยนำเสนอให้ผู้คนดำรงชีวิตไปตามอารมณ์ และความรุนแรง ตัณหาราคะ ความสนุกสนานไร้สาระต่างๆของโลก สื่อบันเทิงต่างๆของมันจะทำหน้าที่รังสรรค์ขึ้น โดยไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ใช้สติปัญญาของตัวเองในการแสวงหาสัจธรรมและความจริงเกี่ยวกับเป้าหมายที่แท้จริงในชีวิตของตน จนในที่สุดผู้คนจะปฏิบัติตาม และดำรงชีวิต ถือค่านิยมตามแบบอย่างที่สื่อต่างๆของพวกมันสร้างขึ้น ในที่สุดก็ชักนำผู้คนสู่อิสระภาพที่ไร้กฏเกณฑ์และการปฏิเสธฝ่าฝืนกฏหมายพระเจ้า และหลงไหลอยู่กับความสุขของโลกดุนยาและปฏิเสธไม่ยอมรับถึงการมีอยู่ของชีวิตหลังความตาย หากใครติดตามและเสพสื่อต่างๆเหล่านี้อยู่ก็ขอให้ระมัดระวังเพระเหล่านี้คือกระบอกเสียงของไซออนิสต์

Bluegy Images Hosting

AOL Time Warnerเครือข่ายสื่อยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่ง

HBO, TNT, TBS, CNN, TCM, Warner Brothers, Time Inc. (more…)

 

ถลกหนังไซออนนิส ตอนที่ 5 สิงหาคม 20, 2009

Filed under: ถลกหนัง ไซออนิสต์ — shabab00 @ 6:24 pm

Elemental correspondences: Fire-Water-Air-Earth, North-South-East-West, Spring-Summer-Autumn-Winter

รากฐานของลัทธิยิวนอกรีต(ไซออนิสต์)

โดย ชุกรี การิมี…….
กลุ่มอัซซาบีกูน ……


มีสิ่งต่างๆ ถูกวางอยู่ภายใต้แนวคิด one world  ความเจ็บปวดและความเกลียดชัง พลังอำนาจและเล่ห์เหลี่ยม ความอ่อนแอและความทารุณ  ความหวังและความมุ่งมั่น ความเย่อหยิ่งและการเย้ยหยัน องค์กรที่ดี และการดำรงอยู่อย่างยั่งยืน เราจะรู้จักไซออนิสต์ได้จาก อารมณ์ความรู้สึกที่เป็นคู่ติดตามกันนี้ ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงมันเพียงในฐานะที่เป็นอุดมการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 เพราะมันเป็นองค์กรเก่าแก่กว่านั้น ตลอดสามพันปีที่ผ่านมา อุดมการณ์นี้ถูกสอนสั่งในกลุ่มชนของพวกเขา

(more…)

 

ค้นหาสัจธรรมด้วยอิสลาม สิงหาคม 5, 2009

….FIND THE TRUTH WITH ISLAM (1-6)

โดย กลุ่มอัซซาบีกูน….

.

.

” 200 ปี ที่แล้วเราอยู่ที่ไหนกัน ? “

.

.

” จะเกิดอะไรขึ้นหากว่าเหรียญ 1 ล้านเหรียญพร้อมใจกันออกหัวทุกเหรียญแทนที่จะสลับหัวกับก้อย “

. (more…)

 

ความรู้เกี่ยวกับหะดีษ(7) สิงหาคม 4, 2009

  • จำแนกตามลักษณะของการนำมาใช้มาเป็นหลักฐานอ้างอิง (5)

    โดย อ.อันวา สะอุ


    หะดีษมุรสัล เคาะฟีย์ المرسل الخفي

    คือ หะดีษที่ผู้รายงานได้รายงานจากบุคคลที่มีชีวิตในสมัยเดียวกัน แต่ทว่าเขาไม่ได้ฟังหะดีษนั้นจากบุคคลดังกล่าวด้วยตัวเขาเอง และก็ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน (more…)

 

ความรู้เกี่ยวกับหะดีษ(6)

  • จำแนกตามลักษณะของการนำมาใช้มาเป็นหลักฐานอ้างอิง (4)

    โดย อ.อันวา สะอุ


    ประเภทหะดีษฎออีฟ(ต่อ)

    มุรสัล เศาะหาบีย์ مرسل صحابي

    คือหะดีษที่รายงานโดยเศาะหาบะฮฺจากท่านรสูล แต่ทว่าเขาไม่ได้ฟังจากท่านรสูล(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) โดยตรง เนื่องจากเขายังเด็กฟังยังไม่รู้เรื่อง หรือเข้าอิสลามในช่วงท้ายของชีวิตท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)  แต่เขารายงานหะดีษเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เขาไม่ได้รวมอยู่ด้วย หรือเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงตอนต้นของอิสลาม

    หุก่มหะดีษมุรสัล เศาะหาบีย์ (more…)

 

ความรู้เกี่ยวกับหะดีษ(5)

  • จำแนกตามลักษณะของการนำมาใช้มาเป็นหลักฐานอ้างอิง (3)

    โดย อ.อันวา สะอุ


    หะดีษที่นำมาเป็นหลักฐานไม่ได้ มีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน คือ

    1)      หะดีษฎออีฟ   حديث ضعيف  (หะดีษอ่อน)

    2)      หะดีษเมาฎั๊วะ   حديث موضوع (หะดีษที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมา)

    หะดีษฎออีฟ حديث ضعيف

    คือทุกๆหะดีษที่ขาดเงื่อนไขหรือคุณสมบัติของหะดีษหะซัน(ซึ่งรวมถึงคุณสมบัติของหะดีษศอหี้หฺด้วย)

    องค์ประกอบที่ทำให้เป็นหะดีษฎออีฟ มีอยู่ 2 ประการ คือ (more…)

 

ความรู้เกี่ยวกับหะดีษ(4)

  • จำแนกตามลักษณะของการนำมาใช้มาเป็นหลักฐานอ้างอิง(2)

    โดย อ.อันวา สะอุ


    ประเภทของหะดีษ หะซัน

    หะดีษหะสันนั้นแบ่งออกเป็น สองประเภท ดังนี้

    1. หะดีษหะสัน ลิษฺาติฮฺ حسن لذاتهคือ หะดีษที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับหะดีษศอหี้หฺ แต่จะต่างกันตรงที่สายรายงานบางคนมีความจำไม่ดีเลิศ เหมือนสายรายงานของหะดีษศอหีหฺ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเลอะเลื่อนหรือหะดีษศอหี้หฺลิฆอยริฮฺ ตามที่ได้นิยามมาแล้ว

    ตัวอย่างหะดีษหะสัน ลิษฺาติฮฺ หะดีษที่บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ (more…)

 

ความรู้เกี่ยวกับหะดีษ(3)

  • จำแนกตามลักษณะของการนำมาใช้มาเป็นหลักฐานอ้างอิง(1)

โดย อ.อันวา สะอุ


จำแนกหะดีษออกเป็นสองประเภท คือ

1.      หะดีษที่นำมาเป็นหลักฐานได้

2.      หะดีษที่ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้

หะดีษที่นำมาเป็นหลักฐานได้แบ่งออกเป็นสองประเภทคือ

1. หะดีษศอหี้หฺصحيح

2. หะดีษหะซัน حسن (more…)

 

ความรู้เกี่ยวกับหะดีษ(2)

  • จำแนกตามลักษณะของกระแสรายงาน

    โดย อ.อันวา สะอุ



แบ่งออกเป็นได้ สองประเภทคือ

1.      หะดีษมุตะวาติรฺمتواتر

2.      หะดีษอาหาด آحاد

หะดีษมุะวาติรฺمتواتر คือหะดีษที่มีบุคคลจำนวนมากในทุกสมัยได้รายงานสืบทอดกันมายังต่อเนื่อง โดยไม่มีความเป็นไปได้เลยว่าบุคคลจำนวนมากเหล่านั้นจะสมคบกันกล่าวเท็จ

โดยจำนวนผู้รายงานในแต่ละช่วงนั้นนักวิชาการได้กำหนดว่าอย่างน้อยต้องมี 10 คนขึ้นไป

สถานภาพของหะดีษมุตะวาติร ถือว่าเป็นสุดยอดของความถูกต้องโดยไม่มีข้อสงสัยเคลือบแคลงใดๆ ผู้ใดที่ปฏิเสธหะดีษมุตะวาติรผู้นั้นจะตกศาสนาเป็นกาฟิรฺ

ตัวอย่างหะดีษมุตะวาติร (more…)

 

ความรู้เกี่ยวกับหะดีษ(1)

ความหมายและประเภท

โดย อ.อันวา สะอุ


ความหมายของหะดีษ

ความหมายทางภาษา

คำว่าหะดีษในภาษาอาหรับมีความหมายดังนี้

1.  แปลว่า ใหม่ ซึ่งตรงข้ามกับคำว่า เกาะดีม قديم    ซึ่งแปลว่า เก่า

2.    แปลว่า คำพูด เช่น หะดีษของอับดุลลอฮฺ หมายถึง คำพูดของอับดุลลอฮฺ เป็นต้น

ความหมายทางวิชาการ

หะดีษ คือ คำพูด  การกระทำ การยอมรับ และคุณลักษณะ ตลอดจนชีวประวัติของท่านนบีมุฮัมหมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวัสลัม)

อิบนุหะญัร อัล-อัสเกาะลานีย์ให้นิยามของหะดีษว่า “ทุกๆสิ่งที่พาดพิงถึงท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวัสลัม)”

คำที่มีความหมายใกล้เคียงกับหะดีษ (more…)

 

ชี้แจงหนังสือ “สู่สันติภาพถาวร” สิงหาคม 3, 2009

Filed under: ชี้แจง — shabab00 @ 10:27 pm

manuscript2.jpg (375×376)

โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย

ในประเด็นที่เกี่ยวกับ อรหัต หรือจะเรียกอีกอย่าง ว่า อรหันต์นั้น ต้องข้อชี้แจงเอาไว้ก่อนว่า ตาม พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 นั้น เมื่อเราไปตรวจสอบดูก็จะพบกับคำว่า อรหัต,อรหัต-( อะระหัด,ออระหัด,อะระหัดตะ-,ออระหัดตะ-) น. ความเป็นพระอรหันต์ และ พจนานุกรม ศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน  พิมพ์ครั้งที่ 1 ปี 2542 ได้ให้ความหมายศัพตัวนี้ว่า: Arahanta อรหันต์: ( พ.) ผู้บรรลุพระนิพพาน, พระอริยบุคคลชั้นสูงสุด,ผู้บรรลุอรหัตผล

สิ่งที่ได้รับความรู้จากข้างต้นก็คือ คำๆนี้เป็นคำที่ใช้เรียกบุคคลที่ (more…)

 

กฏการใช้หะดีษฎออีฟ สิงหาคม 1, 2009

Filed under: รอบรู้ อัลหะดีษ — shabab00 @ 2:33 am

Sahih%20bukhari%20urdu.jpg (340×300)

โดย อ.ฮาซัน (Azsunnah.com)

อบูบักร บิน อัลอะเราะบีย์ กล่าวว่า

بعدم جواز العمل بالحديث الضعيف مطلقاً لا في فضائل الأعمال ولا في غيرها

ไม่อนุญาตให้ปฏิบัติตามหะดิษเฏาะอีฟ โดยสิ้นเชิง ไม่อนุญาตในเรื่อง ฟะฎออิลุ้ลอะอฺม้าล และไม่อนุญาตในเรื่องอื่นจากนั้น – ตัดรีบุดรอวีย์ เล่ม 1 หน้า 252

ท่านอัลบานีย์ ก็ได้ถือตามทัศนะนี้ – ดู เศาะเฮียะ อัตตัรฆีบ วัต-ตัรฮีบ ในคำนำ เล่ม 1 หน้า 47-68

ตัวอย่างหะดิษเฎาะอีฟ

من صلى بين المغرب والعشاء عشرين ركعة، بنى الله له بيتاً في الجنة “

ผู้ใดละหมาดระหว่าง (ละหมาด)มัฆริบ และ อีชา 20 เราะกาอัต อัลลอฮทรง (more…)

 

ทำไมอัฟกานิสถานต้องทำลายพุทธรูป ? กรกฎาคม 30, 2009

Filed under: ชี้แจง — shabab00 @ 11:21 pm

โดย มูฮาญิรีน

…….จากข่าวการทำลายพระพุทธรูปเก่าแก่ในประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ชาวตะวันตกทราบข้อนี้ดีว่าถ้าเขาสร้างกระแสข่าวนี้ให้ดัง ก็จะทำให้เกิดแนวร่วมในการต่อต้านอิสลามอีกหนึ่งกลุ่มคือชาวพุทธ! และไม่เป็นการวิเคราะห์ที่ผิดพลาดแต่อย่างใด เพราะหลักจากเหตุการณ์นั้นชาวพุทธก็เริ่มไปหยิบประวัติศาสตร์ปลอมๆมาเล่นงานมุสลิม คือจากเดิมที่เราเคยร่ำเคยเรียนกันมาว่าเหตุที่พุทธศาสนาเสื่อมลงในประเทศอินเดียก็เพราะเป็นศาสนาที่ไม่มีพิธีกรรม แต่คนอินเดียนั้นนิยมให้มีพิธีกรรมทางศาสนา เขาไม่ชอบศาสนาที่เป็นทฤษฎีหรือปรัชญามากนัก เขาจึงหันไปนับถือศาสนาฮินดูกันหมดจนกลายเป็นศาสนาประจำชาติของอินเดียไป แต่ในปัจจุบันนี้บรรดาพระสงฆ์และนักเผยแผ่ศาสนาพุทธได้อ้างเหตุผลใหม่แล้ว! เขาบอกว่าเหตุที่พุทธศาสนาเสื่อมไปจากอินเดียก็เพราะ (more…)

 

วิเคราะห์หลักฐานเรื่อง การกินเลี้ยงบ้านผู้ตาย กรกฎาคม 29, 2009

A photo of of a delicious looking Tom Yum Talay, you can see prawns, squid, mushrooms, onions, tomatoes, chilies and of course the soup itself.

วิเคราะห์หลักฐานเรื่อง การกินเลี้ยงบ้านผู้ตาย

โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย

วิเคราะห์หลักฐานเรื่อง การกินเลี้ยงบ้านผู้ตาย

ปัญหาเรื่องบ้านผู้ตายเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหาร  เพื่อส่งผลบุญให้แก่ผู้ตาย ซึ่งชาวบ้านทั่วๆไปจะเรียกกันว่า  ทำบุญบ้านคนตาย, — [ทั้งๆที่ตามทัศนะของนักวิชาการทั้ง 4  มัษฮับเห็นพ้องกันว่า เรื่องนี้ ผู้กระทำจะไม่ได้รับผลบุญดังความเข้าใจ แต่เป็นเรื่องของ “บาป” เพราะเป็นอุตริกรรม (บิดอะฮ์) ที่น่ารังเกียจและไม่สมควรกระทำ ดังจะได้อธิบายรายละเอียดต่อไป] – นั้น เป็นปัญหาขัดแย้งที่แพร่หลายมากในปัจจุบัน,   โดยเฉพาะในประเทศไทยทั้งภาคกลางและภาคใต้ จนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชาวบ้านที่ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องศาสนา   แต่มีความเชื่ออย่างแน่นแฟ้นสืบต่อกันมาว่า  การเลี้ยงอาหารให้ญาติพี่น้องที่ตายไปเป็นเรื่องที่อนุญาตให้ทำได้,    และผู้ตาย ก็จะได้รับผลบุญ (ตามความเข้าใจของตน) จากการเลี้ยงอาหารให้นั้น …

แน่นอน !  เมื่อมีผู้คัดค้านว่า   การเลี้ยงอาหารบ้านผู้ตายทำไม่ได้  เพราะไม่มีหลักฐาน,   (หรือบางคนกล่าวคำหนักถึงขั้นประณามว่า เป็นบิดอะฮ์ เฎาะลาละฮ์)  จึงสร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้านที่นิยมกระทำสิ่งนี้อยู่  จนเกิดความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันเองในหมู่บ้าน  หรือถึงขั้นแยกมัสญิดกันก็มีหลายแห่งเพราะเรื่องนี้ …

ยิ่งกว่านั้น   ปรากฏว่ามีผู้รู้บางท่าน —  ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะครูในยุคเมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้ หรือนักเรียนที่เรียนจบมาจากต่างประเทศ,  โดยเฉพาะ จากประเทศอียิปต์ในปัจจุบันบางท่าน — ซึ่งมักจะพูดอยู่เสมอว่า  ตนเอง เป็นเพียง  “มุก็อลลิด”  (คือผู้ที่ยอมรับเอาทัศนะของ  “มุจญตะฮิด”  มาปฏิบัติโดยไม่จำเป็นต้องรู้หลักฐาน) …  และเป็นนัก  “ทัศนะนิยม”  คือ เชื่อถือในทัศนะของนักวิชาการมัษฮับใดมัษฮับหนึ่งอย่างเคร่งครัด ซึ่งตามปกติ จะไม่ยอมออกนอกลู่นอกทางของมัษฮับที่ตนเองสังกัดอยู่ง่ายๆ …

แต่ .. ในเรื่องของการเลี้ยงอาหารบ้านผู้ตายนี้   (more…)

 

ถามให้คิด สะกิดใจ

ถามให้คิด…สะกิดใจ
สู่เจ้ามิได้ใคร่ครวญดูบ้างหรือ ?


โดย ชารีฟ วงศ์เสงี่ยม...

บทความต่อไปนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อที่จะเตือนสติผู้ที่ยังปฏิเสธการมีอยู่ของพระผู้สร้างที่แท้จริง หรือ เราจะเรียกว่า พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงก็ได้ โดยมีความหวังว่าพี่น้องมุสลิมท่านใดที่มีเพื่อนชาวต่างศาสนิกบทความนี้อาจจะเป็นประโยชน์แก่เขาได้ ก็ขอนำบทความนี้ไปใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดเพื่อเป็นก้าวแรกในการสะกิดจิตสำนึกเบื้องลึกของเขาผู้นั้น อิสลามสอนเอาไว้ว่ามนุษย์ทุกคนเกิดขึ้นมาโดยมีความเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงอยู่ตั้งแต่เกิดแล้ว แต่เนื่องมาจากสภาพแวดล้อมต่างๆที่อยู่รอบตัวเขาทำให้เขาผู้นั้นมีความคิดความเชื่อที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่นกลายเป็นผู้ที่ปฏิเสธพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงไป และบางรายปากก็กล่าวว่า ไม่เชื่อในพระเจ้า หรือพระผู้สร้างที่แท้จริง แต่ในขณะเดียวกันก็กราบไหว้บูชาสิ่งต่างๆสารพัด (more…)

 

แนวความคิดอุดมการณ์ที่ซึ่งเวลาของมันนั้นได้มาถึงแล้ว

bluegy Images Hosting

แนวความคิดอุดมการณ์ที่ซึ่งเวลาของมันนั้นได้มาถึงแล้ว 1

บทความโดย แพทริค เจ บุชานัน 2

แปลโดย ชารีฟ วงศ์เสงี่ยม

ในปี ค.ศ. 1938 อันเป็นปีของ เอนคลัซ 3 ( Anschluss ) และ ข้อตกลงมิวนิค ( Munich ) ชาวคาทอลิกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะรับรู้และเข้าใจอะไรได้เป็นอย่างดี ได้มองข้ามทวีปไปอันเป็นที่ซึ่งมรสุมแห่งสงครามนั้นได้เกิดขึ้นและเขาก็พบอีกว่าเมฆหมอกแห่งสงครามอีกลูกหนึ่งได้กำลังก่อตัวกันขึ้น

เฮแลร เบลเลค 4 ได้เขียน เอาไว้ว่า  “ ผมได้คิดมาเสมอ…บางทีอาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้  ว่า จะมีการฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งของอิสลสาม  และ ลูกๆหลานๆของพวกเราก็จะได้เห็นอีกเช่นกันถึง การเกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งแห่งความพยายามต่อสู้ขับเคี่ยวและหั่มหั่นกันอย่างอย่างดุเดือดระหว่างวัฒนธรรมแห่งคริสเตียน กับคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันที่มีมาช้านานกว่าพันปี ” (more…)

 

ถลกหนังไซออนนิส ตอนที่ 4

ถลกหนังไซออนนิส

ตอนที่ 4

The Biggest Secret

Bluegy Images Hosting

N นิว Wเวิร์ด Oออร์เดอร์ พลพรรคสาวก(ชัยตอน) ผู้สมรู้ร่วมคิดระดับโลก ทำการประกาศระเบียบการณ์ของพวกมันแก่ชาวโลกด้วยยุทธวิธีที่พวกมันเชี่ยวชาญ นั่นคือการกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกในระดับมวลชนเพื่อขับเคลื่อนกลจักรแห่งอำนาจเหนือโลก หากเปรียบเทียบระดับของปัจเจกชนหนึ่งให้เป็นเสมือนโมเลกุลหนึ่งของน้ำในหม้อต้ม เมื่อทำให้น้ำเหล่าร้อนจนเดือดพล่าน ก็จะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหัวรถจักรให้เคลื่อนไปได้เยี่ยงเดียวกันนั้น และพลังที่สื่อสารมวลชนอัดฉีดเข้าไปสู่มวลชนในระบบนั้น ก็คืออารมณ์แห่งความหวาดกลัวและความคาดหวัง เมื่อใดที่ต้องการเร่งเร้าให้มวลชนฮือตามกระแสไปในทิศทางใด ก็เพียงอัดฉีดข่าวสารแห่งความคาดหวังเหล่านั้นเข้าไปสู่สังคม เช่นตัวเลขที่แสดงความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และเมื่อใดที่ต้องการหยุดยั้งหรือปรามกลุ่มชนใดก็เพียงอัดฉีดข่าวสารแห่งความหวาดกลัวเข้าไปในทิศทางตรงข้ามกัน เช่นตัวเลขที่แสดงความถดถอยทางเศรษฐกิจ เพื่อให้สังคมขับเคลื่อนไปตามที่พวกมันต้องการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีกในตลอดศตวรรษที่ผ่านมา และอุบายที่พวกมันใช้ ก็ได้สร้างผลกำไรเป็นกอบเป็นกำเพื่อนำเงินก้อนเหล่านั้นไปใช้ปลุกระดมมวลชนเข้าสู่สงครามเข่นฆ่ากันมาโดยตลอด (more…)

 

ถลกหนังไซออนนิส ตอนที่ 3

ถลกหนังไซออนนิส

ตอนที่ 3

รอยลัทธิซาตาน กับ ไสยศาสตร์ในเมืองไทย

ถ้าเอ่ยถึงอิลลูมิเนติหรือฟรีเมสัน คนก็มักนึกถึงในเชิงการเมืองว่าเป็นสมาคมลับที่เข้าไปแทรกแซงอยู่ทั่วโลก แต่ว่าในความเป็นจริง เราต้องไม่แยกระหว่างศาสนาความเชื่อและการเมืองออกจากกัน ทั้งนี้หากเอ่ยถึงอิลลูมิเนติและฟรีเมสันแล้ว จะต้องรำลึกเสมอว่าพวกเขาเป็นลูกหลานชาวยิว และพวกเขาบูชาชัยฏอน (ซาตาน)

ชาวยิวนั้นต้องยกให้ว่าเป็นบิดาแห่งวิชาไสยศาสตร์ เพราะไสยศาสตร์ทั่วโลก ก็เป็นวิชาที่ศึกษาสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากชาวยิว

ธงชาติอิสราเอลรูปดาว 6 แฉกนั้น เป็นสัญลักษณ์ของชาวยิว มันเป็นสัญลักษณ์ของผู้บูชาชัยฏอนและเครื่องหมายทางไสยศาสตร์ ซึ่งชาวยิวเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งนบีสุลัยมาน (โซโลมอน)

Bluegy Images Hosting

(more…)

 

ถอดรหัส CERN (ตอนที่ 2)

ถอดรหัส CERN

(ตอนที่ 2)

ตราประทับสำคัญของสหรัฐอเมริกา

Bluegy Images Hosting

ตราประทับของสหรัฐฯถูกออกแบบโดยฟรีเมสัน มันเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมาย นอกจากฟรีเมสันแล้วไม่มีใครเข้าใจความหมายของมันได้

เคยมีใครถามตัวเองไหมว่าทำไมต้องมีสัญลักษณ์พีรามิดนี้บนธนบัตร 1 ดอลลาร์ ?

พีรามิดเป็นสัญลักษณ์ที่น่าหลงใหลดึงดูดใจของฟรีเมสันมาช้านาน เพราะมันคือวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาซาตานในหลายอารยธรรมโบราณ จุดเริ่มต้นของมันย้อนไปถึง Enoch (นบีอิดรีส ผู้ที่อัลลอฮฺสอนให้ใช้ปากกาขีดเขียน และเป็นสถาปนิกคนแรกของโลก)

ภาษาลาติน E Pluribus Unum’ ในรูป (อินทรี) แปลความหมายได้ว่า ‘หนึ่งเดียวเหนือความหลากหลาย’ ซึ่งเป็นรากฐานของแผนการเพื่อผนึกรวมรัฐและระบบเงินตราของโลกให้อยู่ภายใต้ระบอบเดียว โดยมีผู้ปกครองคือกลุ่มผู้บูชาซาตาน

หินก้อนบนสุดยังไม่อาจลงมาประทับ ณ ยอดพีรามิดได้ นัยของความหมายนี้คือ (more…)

 

ถอดรหัส CERN (ตอนที่ 1)

ถอดรหัส CERN

(ตอนที่ 1)

Siva_Nataraja

หญิงสาวในเหรียญอเมโร แท้ที่จริงแล้วคือใคร ?

Bluegy Images Hosting

เทวรูปศิวะนาฏราช

รูปปั้นองค์พระศิวะ (พระเจ้าแห่งการทำลาย ผู้ผันแปรสรรพสิ่ง ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู) ใกล้กับอาคารวิจัย A40 ของเซิร์นเซิร์นได้รับมอบเทวรูปนี้เป็นของขวัญจากกระทรวงพลังงานปรมาณูของอินเดีย เพื่อเฉลิมฉลองการร่วมมือกันอย่างลับ ๆมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1960 นับแต่เริ่มต้นการปฏิวัติฟิสิกส์ออกจากกรอบของนิวตัน สู่ฟิสิกส์สมัยใหม่จนพัฒนาก้าวหน้าและเป็นปึกแผ่นในทุกวันนี้ ความจริงเรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อ 18 มิถุนายน 2004

อินเดียได้มอบเทวรูปสัมริดตามคติและปรัชญาความเชื่อเรื่องจักรวาลของชาวฮินดูขนาดยักษ์ที่ชื่อ “ศิวะนาฏราช” พระศิวะเต้นรำอยู่ในห้วงจักรวาลเพื่อทำลายทุกสิ่งก่อนการเริ่มต้นสร้างจักรวาลของพระพรหม อันนำไปสู่ทฤษฎี “string theory” ซึ่งวางอยู่บนแนวคิดต้นกำเนิดพลังงาน สนามพลังงาน การไหลของพลังงาน และสิ่งที่สะท้อนให้รับรู้ถึงต้นกำเนิด (more…)